กันยายน 4, 2024

ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด

สถานที่ไม่ควรพลาด

เกาะลังกาวี สถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติประวัติศาสตร์ ที่เชื่อมกันระหว่างไทย-มาเลเซีย

เกาะลังกาวี

เกาะลังกาวี ที่มา ของประวัติศาสตร์ร่วมกันเป็นอย่างไร?

เกาะลังกาวี ในอดีต เกาะลังกาวีเป็นส่วนหนึ่งของ รัฐไทรบุรี ปัจจุบันได้ถูกรวมประเทศเป็น รัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซีย ที่มาที่ไปของชื่อลังกาวีนั้นคือ ลัง มาจากคำว่า ฮลัง (มลายู) ที่แปลว่า นกอินทรีย์น้ำตาลแดง ส่วนลังกาวีนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอับดุล ฮาลิม เป็นผู้พระราชทานชื่อนี้ให้ ซึ่งมีความหมายรวมกันว่า ลังกาวี อัญมนีแห่งไทรบุรี

ครั้งหนึ่งในอดีต ระบบการปกครองแบ่งเป็นรัฐๆ ยังไม่ได้มีการรวมประเทศหรือตั้งชื่อประเทศกัน รัฐสยามเองที่เป็นต้นกำเนิดประเทศไทยจวบจนถึงปัจจุบันนั้น ได้แผ่ขยายอาณาเขตทางตอนใต้ลงมา จนในที่สุดได้เป็นส่วนหนึ่งของสยาม ในช่วงเวลานั้นวัฒนธรรมระหว่างสองรัฐ ได้แลกเปลี่ยนกันอยู่ตลอด จนทำให้ทุกวันนี้รูปร่างหน้าตา

ของชาวลังกาวีนั้นไม่แตกต่างจากคนภาคใต้บ้านเรา เพราะในอดีตทางตอนใต้ของประเทศไทย เคยแตกเป็นรัฐย่อยเป็นจำนวนมาก และทำให้มีความสัมพันธ์แลกเปลี่ยน ระหว่างชุมชนใน South East Asia กันมาไป

จนทำให้เกิดการหลอมรวม หลากหลายเชื้อชาติพันธ์กัน ปัจจุบันพรมแดนเขตประเทศไทยนั้น วัดกันจากเกาะตะรุเตา ที่อยู่จังหวัดสตูลห่างออกไปเพียง 4 กิโลเมตร ก็พบกับเกาะลังกาวี ที่อยู่ฝั่งประเทศมาเลเซีย

หากมองด้วยตาเปล่าฝั่งไทย ด้วยระยะแค่นี้สามารถเห็นได้ชัด หลังจากที่ไทรบุรีไม่ได้เป็นของไทย หลังจากทำสนธิสัญญากับอังกฤษ เสียดินแดนทางตอนใต้มลายู กับ การยกเลิกสัญญาลับ

ที่เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต และเรื่องหนี้เงินกู้สร้างทางรถไฟสายใต้ ต่อมาไทรบุรีก็เป็นของประเทศมาเลเซีย ด้วยความที่พรมแดนใกล้ชิดกัน ย่อมมีตำนานท้องถิ่นเกิดขึ้นร่วมกัน

บนเกาะลังกาวีเองก็มีตำนาน ที่เกี่ยวกับชาวไทยด้วยเช่นกัน ในเรื่องนี้คนท้องถิ่นเล่าขานบอกต่อกันมา เป็นเวลาหลายรุ่นมา จนถึงปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อนี้รวมถึง เป็นเสน่ห์ของการมาท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้

เกาะลังกาวี ประวัติ ตำนานเกาะต้องคำสาปเป็นอย่างไร?

ตำนานเกาะต้องคำสาปนี้ ทุกคนที่อาศัยอยู่บนเกาะลังกาวีนั้นย่อมรู้จัก กันเป็นอย่างดี เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ นางมัสสุหรี ซึ่งมีเชื้อสายชาวไทยที่เกิดมาจาก ครอบครัวพ่อค้าชาวภูเก็ตที่นำเรือสินค้า ไปค้าขายกับทางมลายู แต่แล้วระหว่างเดินทางนั้น เจอเข้ากับพายุทำให้เรือต้องอัปปาง ทางพ่อแม่ของนางมัสสุหรี ครั้งหนึ่งเคยถูกซินแซทักว่า

นางมัสสุหรี เป็นผู้มีบุญมาเกิด ในขณะที่ทั้งสามจมอยู่กลางทะเล ได้ขอพรว่าหากนางมัสสุหรี เป็นคนที่มีบุญ ก็ขอให้ลูกของเขารอดด้วยเถอะ จนในที่สุดทั้งสามก็ลอยมาติดยังเกาะลังกาวี

ทั้งสามใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ จนไปพบกับแหล่งน้ำศักสิทธิ์ที่เชื่อว่าหากใครดื่มก็จะ รักษาโรคภัยได้หายขาด ครอบครัวของนางมัสสุหรีได้ชักชวน ให้ผู้คนบนเกาะได้มาใช้โดยไม่ห่วง ทำให้ผู้คนที่เจ็บป่วยได้ยาก

ต่างพากันมาที่บ้านของนางมัสสุหรี จนกระทั่งเรื่องไปถึงหูของ วันดารุส เจ้าชายของผู้ปกครองเกาะนี้ เขาได้ปลอมตัวเป็นคนยากไร้ไปบ้านของนางมัสสุหรี เธอได้ต้อนรับเจ้าชายโดยที่ไม่รู้ว่าเขานั้นปลอมตัวมา

ทั้งสองพูดคุยกันจนเกิดเป็นความรัก เจ้าชายได้ขอให้พระมารดาสู่ขอนางมัสสุหรี แต่พระมารดากลับไม่ชอบนาง เหตุเพราะนางเป็นแค่สามัญชนธรรมดา ด้วยความรักของเจ้าชายได้

ยื่นคำขาดกับพระมารดาถ้าหากไม่ได้แต่งงานกับนางมัสสุหรี ก็ขอตายซะดีกว่า จนพระมารดาต้องจำใจยอมให้แต่งงาน แต่ความริษยาที่มีก่อตัวภายในจิตใจของ พระมารดาทำให้คอยหาทางรังแกอยู่เสมอ เที่ยวธรรมชาติ

ทั้งๆที่นางมัสสุหรีรู้ว่าตนถูกกระทำ แต่ก็ต้องอดทนเพื่อพิสูจน์ให้พระมารดาเห็น จนนางมัสสุหรีได้ให้กำเนิดบุตรชายได้ไม่นาน เจ้าชายก็ต้องออกไปทำศึกกับสยาม เพราะในขณะนั้นสยามกำลังขยายดินแดน

ระหว่างที่เจ้าชายไม่อยู่ ยิ่งทำให้พระมารดาแกล้งและคอยหาจังหวะ กำจัดนางมัสสุหรีได้ง่ายกว่า ด้วยความยากลำบากของนางมัสสุหรี ทำให้องครักษ์เกิดความสงสาร จึงเป็นเหตุให้พระมารดา สั่งจับตัวทั้งสองมาลงโทษ

องครักษ์ได้ถูกโยนลงหลุมและปาหินจนตาย ส่วนนางมัสสุหรีถูกมัดแห่ประจารให้ชาวบ้านได้ล่วงรู้ แต่ก็ไม่มีอาวุธใดทำร้ายนางได้ นางมัสสุหรีบอกกับเพชรฆาตรว่ามีเพียงกริชประจำตระกูลเท่านั้น

ที่ฆ่านางได้ พระมารดาได้สั่งให้คนรีบไปนำมาเพื่อที่จะสำเร็จโทษ นางมัสสุหรีได้บอกกับทุกคนว่า ถ้าหากว่านางถูกใส่ร้ายก็ขอให้โลหิตนี้เป็นสีขาว และขออย่าให้เลือดตกลงสู่แผ่นดิน

สิ้นเสียงของเธอเพชรฆาตรได้ใช้กริชประจำตระกูลของเธอ แสงเข้าที่อก เลือกสีขาวได้พุ่งออกมาลอยอยู่บนอากาศ ก่อนเธอตายได้สาปแช่งคนบนเกาะแห่งนี้ให้พบกับความวิบัติ 7 ชั่วอายุคน

เมื่อเจ้าชายกลับมา ทราบข่าวการตายของนางมัสสุหรี ทำให้เขาสละสิทธิ์รัชทายาท และกลับไปอยู่ยังบ้านเกิดของ นางมัสสุหรี ที่ภูเก็ต ทั้งหมดนั้นเป็นตำนานความรักและคำสาป ของผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จนที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน

เกาะลังกาวี

เกาะลังกาวี เรื่องราว ต่อมาหลังจากตำนานที่เกิดขึ้น สภาพของเกาะเป็นอย่างไร?

หลังจากที่เกาะต้องคำสาปจากนางมัสสุหรี ตำนานยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากที่พระมารดาสิ้นพระชนลง พระศพไม่สามารถฝั่งลงในทรายได้ พระศพก็จะดันขึ้นมาเสมอ จนต้องไปบนบานที่สุสานนางมัสสุหรี

หาดทรายที่เป็นสีขาว กลายเป็นสีดำทั่วทั้งเกาะ ปัจจุบันยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่ จนกระทั่งต่อมา ได้มีการขอขมาลบล้างคำสาป ด้วยการเอาทายาทของนางมัสสุหรีรุ่นที่ 7 มาทำพิธีในครั้งนี้

หลังจากนั้นเกาะลังกาวี ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้น ได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางการเมเลเซียได้พัฒนาที่นี้ให้ดีกว่าแต่ก่อนมาก ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ทางทะเล เที่ยวเมืองโบราณ

และป่าไม้ ในการเดินทางไปก็แสนง่าย ด้วยความที่พรมแดนติดกับไทย สามารถนั่งเรือจากสตูล ข้ามไปเกาะลังกาวีได้ เรื่องราวตำนานนี้มีจุดเชื่อมกันทางประวัติศาสตร์ ทางเรื่องเชื้อชาติ

ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 7 ต่อจากนางมัสสุหรี อาศัยอยู่ในตัวผู้เก็ต ชื่อ นางสาว ศิรินทรา ยายี หรือ เมย์ บุตรสาวของสุวรรณ ยายี ผู้พ่อมีอาชีพขับรถรับจ่าในอำเภอป่าตอง เธอได้ถูกเชิญไปร่วมทำพิธีล้างคำสาปอีกด้วย

ตามที่นางมัสสุหรีได้กล่าวเอาไว้ก่อนที่จะสิ้นใจถึง 7 รุ่น จนมาถึง เมย์ ที่จะเป็นคำที่คอยล้างคำสาปนี้ จนกลายเป็นข่าวดังในช่วงหนึ่งในประเทศไทย ตำนานเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ที่ทางประเทศมาเลเซียเอง ให้ความสำคัญกับทายาทของ นางมัสสุรีกับเจ้าชายวันดารุส ซึ่งมีสายเลือดกษัตริย์ราชวงค์เหมือนกัน ทางมาเลเซียได้ให้ทุนการศึกษากับ เมย์ ถึง 2 ปี ในประเทศมาเลเซียอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับสองประเทศ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยมีประวัติศาสตร์ร่วมกัน

การเดินทางไป เกาะลังกาวีทำได้อย่างไรบ้าง?

การเดินทางไปเกาะลังกาวีนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุด คือการนั่งเครืองบินไปลงยัง ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จากนั้นต่อด้วยรถตู้เพื่อ เดินทางไปยังท่าเรือ ตำมะลัง จังหวัดสตูล

ที่ท่าเรือมีบริการเรือเฟอร์รี่ และเรือข้ามไปเกาะธรรมดาเช่นกัน ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายของแต่ละคน ถ้าเป็นเรือเฟอร์รี่ ใช้ระยะในการเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็ถึงเกาะลังกาวีแล้ว ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน

เพราะระยะทางของเกาะลังกาวีไม่ไกลจากเกาะตะรุเตาที่อยู่ฝั่งไทย ห่างกันเพียง 4 กิโลเมตร จึงทำให้การเดินทางไม่ใช้เวลามาก หรือเลือกใช้การเดินทาง ขึ้นเครื่องจากกรุงเทพไปลงยัง

สนามบินนานาชาติลังกาวี แต่ด้วยประเทศไทยไม่มีสายการบินตรงไปที่นั้น จะต้องต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ วิธีนี้จึงใช้เวลานานหน่อย แต่ถึงที่เลยอย่างแน่นอน การเดินทางนั้นมีอีกหลายวิธี แต่ก็ขึ้นอยู่กับงบของทุกคนด้วยเหมือนกัน 

เกาะลังกาวี

สิ่งที่น่าสนใจของ เกาะลังกาวีมีอะไรบ้าง?

เกาะลังกาวีมีเนื้อที่ทั้งหมด 478.5 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีทั้งทะเล ป่าไม้ น้ำตก และพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชน นอกความงามของธรรมชาติแล้ว ที่เที่ยวติดอันดับ

ยังมีตำนานของชุมชนที่ สร้างเสน่ห์ของเกาะนี้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่คนทั้งโลกต้องยอมรับว่าเป็นเกาะ หนึ่งในความงามของทะเลอันดามัน สิ่งปลูกสร้างที่เป็นไฮไลท์ของที่นี้เลย

นั้นคือสะพานลังกาวี ที่เป็นสถาปัตยกรรมสะพานข้ามภูเขาที่ไม่รบกวนสิ่งแวดล้อมมากจนเกินไป ตลอดสองข้างทางของสะพานนั้นเป็นป่าไม้ธรรมชาติ นอกจากจะเป็นทางเดินขนาดใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติแล้ว

ยังมีกระเช่าลอยฟ้าเพื่อชมทิวทัศน์ความงาม ได้ทั่วทั้งเกาะ ที่นี้มีหาดทรายที่มีชื่ออย่าง Black Sand Beach ซึ่งเป็นหาดทรายสีดำโดยธรรมชาติ ตามตำนานเล่าว่านี้คือร่องรอยของคำสาป

ตามตำนานหาดทรายทั้งเกาะเป็นสีดำ ปัจจุบันยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ที่นี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับนางมัสสุหรี บอกเล่าประวัติต่างๆ รวมถึงมีการเก็บกริชประจำตระกูล ที่ใช้ประหารนางมัสสุหรี เที่ยวที่แปลก

ไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้ศึกษากันอีกด้วย  นอกจากนี้มีอีกหลายสถานที่ที่ไม่ได้พูดถึง จึงอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัส ประสบการณ์ด้วยตัวของคุณเอง จึงทำให้ มองว่าเกาะลังกาวีที่ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยเรา จนมาถึงปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ในพื้นที่ชุมชนคนพื้นที่ระหว่างสองฝั่ง

มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาตลอด ทะเลทางตอนใต้นั้นนับว่าเป็น ทรัพยากรธรรมชาติที่ควรค่าแก่การรักษา เกาะลังกาวีเองได้ติดอันดับความงามของทะเลอันดามัน ในแถบ South East Asia เลยทีเดียว

เที่ยวที่แปลก

ค่า สิ โน 888

บอลสูงต่ําแม่นๆ